คลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลเทศกาลเมเปิลบนภูเขาโฮไรจิ บนเว็บไซต์ Aichi Now

ภูเขามีลักษณะไม่เหมือนที่อื่นใดด้วยโครงสร้างธรณีวิทยาและการจัดตัวของชั้นหินและแร่ธาตุ นอกจากนี้ นกหายาก เช่น นกเค้ากู่ญี่ปุ่น ก็สามารถพบได้ที่นี่ และยังถูกเชื่อว่าเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ เพราะเสียงร้อง "บู-โพ-โซ" ของมัน อันหมายถึง บู=พระพุทธ, โพ=พระสูตร, โซ=พระสงฆ์ อีกทั้ง ยังมีกระรอกบินทำรังบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และเฟิร์น ลิลลี่ และพืชหายากอื่นๆ ที่เติบโตท่ามกลางดงป่าโบราณของต้นซีดาร์และต้นไซเปรสญี่ปุ่นยักษ์ สร้างความรู้สึกที่พิเศษให้สถานที่แห่งนี้

ขั้นบันได 1,425 ขั้น ที่ไม่สม่ำเสมอ ไม่มั่นคง และลื่นง่าย ทอดยาวเป็นทางเดินคดเคี้ยวไปสู่วัดโฮไรจิริมหน้าผา ซึ่งชื่อของวัดเป็นที่มาของชื่อภูเขาโฮไรจิ นอกจากนี้ ตลอดเชิงเขาและเส้นทางไปสู่ยอดเขานั้น ได้ถูกเรียงรายด้วยศาลเจ้าเล็กๆ และเทวรูปของเทพเจ้าต่างๆ รวมถึงซากอาคารซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของวัดโฮไรจิ

สถานที่ที่เปี่ยมพลังและผู้คนที่เปี่ยมพลังอำนาจ

วัดและเขตบริเวณวัด สร้างขึ้น ณ กึ่งกลางระหว่างทางขึ้นเขาโดยมีเบื้องล่างเป็นผาหินสูงชันขนาดใหญ่ เมื่อปี 703 โดยท่านริชู นักบวชผู้สันโดษ วัดโฮไรจิได้รับการอุปถัมภ์มาอย่างยาวนานจากคนหลายคน เช่น ท่านมินะโมโตะ โยริโทโมะ ผู้ยิ่งใหญ่ โชกุนท่านแรกแห่งคามะคุระ, ท่านทาเคดะ ชินเก็น นักรบศตวรรษที่ 16 ผู้ทรงพลัง, ท่านโชกุนโทคุกาวะ อิเอะยะสุ ผู้ปกครองช่วงศตวรรษที่ 17 และท่านอิเอะมิตสึ หลานของท่าน นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่า มัตสึโอะ บะโช กวีพเนจร ได้เดินทางมาเยือนภูเขานี้ ในระหว่างการเดินทางของเขาอีกด้วย

เพื่ออุทิศให้แก่ ยะคุชิ-เนียวไร พระพุทธผู้รักษาโรค ผู้เป็นเทพเจ้าทรงพลังที่สามารถรักษาโรคร้ายและความป่วยไข้ วัดโฮไรจิ จึงต้อนรับผู้แสวงบุญที่มองหาหนทางการรักษาความเจ็บป่วยทางกายและจิตใจ และการยกระดับจิตวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยุคเอโดะ และแม้กระทั่งวันนี้ วัดและภูเขาได้ดึงดูดผู้คนมากมายที่แสวงหาความสงบภายในใจและทิวทัศน์ตระการตา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ทิวทัศน์จากยอดเขานั้นน่าทึ่ง โดยสามารถมองเห็นตลอดอ่าวมิคาวะและภูมิภาคมิคาวะ และยังมีฤดูใบไม้ร่วงที่นำมาซึ่งภาพอันงดงามเหลือเชื่อ

ในฐานะสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง กล่าวกันว่า ท่านสามารถรับความแข็งแกร่งทางกายและพลังจิตวิญญาณจากแสงอาทิตย์ที่สะท้อนมาจากหน้าผา โดยเพียงแค่ยืนอยู่ด้านหน้าตรงนั้น

ด้านตะวันออกของโถงใหญ่คือ ศาลเจ้าโทโชกุ ที่อุทิศแก่ตระกูลโทคุกาวะ สร้างขึ้นโดยท่านอิเอะมิตสึ โชกุนคนที่สาม โดยกำแพงของโทโชกุ ประดับด้วยลายแกะสลักประณีตคล้ายกับที่นิคโค โทโชกุ และประตูยักษ์นิโอะ ซึ่งสร้างโดยท่านอิเอะมิตสึเช่นกัน ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติด้วย

กล่าวกันว่า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์และบริเวณโดยรอบ ตั้งอยู่ในแนวร่วมและจุดตัดของศาลเจ้า วัด ปราสาท ที่สำคัญหลายแห่ง ไปจนถึงภูเขาฟูจิ ซึ่งยิ่งเพิ่มความลึกลับให้แก่วัดโฮไรจิ และยังกล่าวกันอีกว่า บิดามารดาของท่านโทคุกาวะ อิเอะยะสุ ได้เข้ามาขอพรที่นี่ก่อนที่ตั้งครรภ์ท่าน รวมถึงมีคนจำนวนมากก็ได้อ้างถึงปาฏิหาริย์การรักษาโรคภายหลังจากการมาแสวงบุญที่วัดและบ่อน้ำพุร้อนเบื้องล่าง

ตำนานของวัดโฮไรจิ

ตำนานกล่าวว่า ท่านริชู นักบวชผู้ลึกลับ ได้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติในหุบเขายูยะที่อยู่ด้านล่างของภูเขา โดยในเวลานั้น พระจักรพรรดิมมมุ ทรงพระประชวรอย่างหนัก ดังนั้น ท่านริชู ซึ่งได้ฝึกฝนศาสตร์การรักษาทางพุทธศาสนา จึงถูกเรียกตัวมาเพื่อให้หาหนทางรักษา ท่านริชูได้เดินทางไปยังพระราชวังด้วยนกฟีนิกซ์ และใช้เวลา 17 วัน 17 คืน สวดภาวนาจนกระทั่งพระจักรพรรดิทรงหายจากอาการประชวรกลับเป็นปกติ พระจักรพรรดิมมมุจึงได้สร้างวัดโฮไรจิเพื่อแสดงความขอบคุณ (เป็นเรื่องบังเอิญที่คำว่า โฮไรจิ แปลว่า วัดแห่งนกฟีนิกซ์ที่กำลังมา)

วัดถูกสร้างขึ้นในตำแหน่งอันเป็นมงคลใต้หน้าผา ซึ่งทำให้ท่านริชูเดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนที่ใช้รักษาโรคด้านล่างได้อย่างไม่สะดวกนัก แต่ด้วยเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่โบกสะบัดในสายลม ท่านจะลอยลงมาจากภูเขาในขณะที่กำลังเป่าขลุ่ย ด้วยตำนานของนักบวชผู้ทรงฤทธิ์ที่ลงมายังบ่อน้ำพุร้อนนี้ ทำให้ชาวบ้านต่างมาสร้างที่พักแรมและโรงอาบน้ำที่บริเวณนั้น ซึ่งยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้

มาเพื่อชมทิวทัศน์ มาเพื่อประวัติศาสตร์และตำนาน มาเพื่อการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณของท่าน มาเพื่อรับประสบการณ์และเห็นด้วยตาของท่านเองที่วัดโฮไรจิบนภูเขาโฮไรจิอันศักดิ์สิทธิ์