เพียง 10 นาทีโดยเรือเฟอร์รีจากคาบสมุทรชิตะในอ่าวมิคาวะแห่งไอจิ คือฮิมาคาจิมะที่ขึ้นชื่อเรื่องหมึกยักษ์และอาหารชั้นสูงจากปลาปักเป้าพิษที่เรียกว่าฟุกุ ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของหนึ่งใน 47 โรนินหรือซามูไรไร้สังกัดที่มีชื่อเสียง ที่ได้รับการจดจำจากความอาฆาตที่มีต่อขุนพลท้องถิ่น!

เกาะฮิมาคาจิมะได้รับความนิยมตลอดทั้งปี ด้วยชายหาด รีสอร์ท แหล่งตกปลา และงานเทศกาล ซึ่งมีน้ำทะเลที่ค่อนข้างสงบ และมีชายหาดที่ปลอดภัยเป็นพิเศษสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ฮิมาคาจิมะยังมีโรงแรมและที่พักที่เห็นทิวทัศน์อ่าวมิคาวะงดงามเป็นประกาย

ทั่วเกาะเต็มไปด้วยหุ่น ตัวละคร สิ่งของต่างๆ สินค้าที่ระลึกหมึกยักษ์หลายร้อยแบบ และแน่นอนว่ามีหมึกยักษ์ของจริงด้วย และยังมีหมึกยักษ์ตากแห้งเป็นของขึ้นชื่อประจำเกาะ ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเห็นหมึกยักษ์ตากแดดแขวนอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแม้แต่สถานีตำรวจยังออกแบบให้ดูคล้ายกับหมึกยักษ์

หากลองถามชาวญี่ปุ่นคนใดก็ตามว่า สถานที่ที่จับปลาฟุกุได้มากที่สุดคือที่ไหน ส่วนใหญ่คงจะบอกท่านว่าที่ชิโมะโนะเซคิ แต่แท้ที่จริงแล้ว สถานที่ที่จับปลาฟุกุจับได้มากที่สุดคือน่านน้ำในเขตจังหวัดไอจิ และหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะเอร็ดอร่อยกับเนื้อปลาสีขาวเนื้อแน่น ก็คือที่ฮิมาคาจิมะ ถึงอย่างนั้นเกาะนี้ก็ยังขึ้นชื่อที่สุดด้านหมึกยักษ์ โดยจะเสิร์ฟเป็นหมึกยักษ์ต้มสุกทั้งตัว ซึ่งเมื่อหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ จะมีรสชาติหนึบเล็กน้อยคล้ายๆ เครย์ฟิช (ล็อบสเตอร์)

น่านน้ำใสสะอาดและเงียบสงบของเกาะแห่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการว่ายน้ำและกีฬาทางน้ำในฤดูร้อน อีกทั้งมีสวนสัตว์น้ำขนาดเล็กที่คุณสามารถชมการแสดงและเล่นกับโลมา และยังมีหาดซันไรส์ทางฝั่งตะวันออกและหาดซันเซ็ตทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งเป็นหาดยอดนิยม นอกจากนี้ มีรีสอร์ทและโรงแรมให้บริการอาหารทะเลที่สดใหม่ที่สุดและหลากหลายที่สุด ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายซึ่งบ่อยครั้งก็มีจำนวนมากกว่าชาวบ้านท้องถิ่นที่เป็นมิตรราว 2,100 คนเสียอีก

เพลิดเพลินกับการตามหาหุ่นหมึกยักษ์บนเกาะฮิมาคาจิมะ และมาเห็นด้วยตาท่านเองว่าทำไมฮิมาคาจิมะจึงเป็น "สวนของหมึกยักษ์" ตามเพลง Octopus's Garden ของวงดนตรีเดอะบีเทิลส์

"ชิงช้าของเฮดิ" อันมีชื่อเสียงซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเลและมอบทัศนียภาพอันน่าตื่นตาของอ่าวมิคาวะ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ใกล้หาดซันไรส์ สุดปลายด้านตะวันออกของเกาะ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้สร้างชิงช้านี้ แต่ชื่อนี้ช่างเหมาะสมจริงๆ เพราะมาจากฉากเปิดของอนิเมะเรื่อง "Heidi, Girl of the Alps" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น โดยเช่นเดียวกับที่ตัวละครเอกในเรื่องที่ประสบความสำเร็จทางโทรทัศน์นี้ทำ นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้ช่วงเวลาพักผ่อนสบายๆ ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้าได้เสมอ โดยสามารถเข้ามาเพลิดเพลินกับท้องฟ้ากว้างใหญ่และทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงาม