ในปี 2005 ท่าอากาศยานนานาชาติเซ็นแทรร์ในปัจจุบันได้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเริ่มเปิดให้บริการ ส่วนท่าอากาศยานนานาชาตินาโกย่าเดิมได้กลายมาเป็นท่าอากาศยานนาโกย่า และเทอร์มินัลต่างประเทศของท่าอากาศยานเดิมนั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นแอร์พอร์ตวอร์ค นาโกย่า ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ ที่ได้รับความนิยม

จุดที่น่าสนใจอย่างยิ่งของพิพิธภัณฑ์การบินไอจิแห่งนี้คือ การจัดแสดงเครื่องบิน เครื่องบินเจ็ท และเฮลิคอปเตอร์ ของทั้งพลเรือนและทหารที่ปลดประจำการแล้ว ร่วมกับการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบินเพื่อความบันเทิงและการศึกษาอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการขับเครื่องบินจำลอง

พิพิธภัณฑ์การบินไอจิซึ่งเปิดให้บริการในปี 2017 เป็นอาคารที่มีลักษณะราวกับโรงเก็บเครื่องบินขนาดยักษ์ซึ่งเก็บรักษาเครื่องบินที่เคยถูกใช้งานจริงหลายรุ่น ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่ "มิตซูบิชิ ซีโร่" หนึ่งในเครื่องบินขับไล่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ลำ, "YS-11" เครื่องบินเทอร์โบใบพัดที่ผลิตในญี่ปุ่นในยุค 1960 และ "MH2000" เฮลิคอปเตอร์ลำแรกที่ออกแบบและผลิตในประเทศทั้งหมด นอกจากนี้ยังมี "MU-2" เครื่องบินเทอร์โบใบพัดเครื่องยนต์คู่ปีกสูงที่ผลิตโดยมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ ระหว่างปี 1963 ถึง 1986, เครื่องบินเจ็ท "มิตซูบิชิ ฮอว์คเกอร์ 400", เฮลิคอปเตอร์เดิมของตำรวจนครบาลสิงโตภูเขา และอากาศยานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายหลายรุ่น อีกส่วนของที่นี่ประกอบไปด้วยอากาศยานจำลองกว่า 100 รุ่นที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ สถานที่อื่นๆ เช่น ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ห้องบรรยายและปฐมนิเทศ จุดสังเกตการณ์ชั้นดาดฟ้า และร้านค้า จะทั้งให้ความรู้และช่วยสานฝันในการเป็นวิศวกรด้านการบินหรือนักบินให้กับคนรุ่นต่อไป

แอร์พอร์ตวอร์ค นาโกย่ามอลล์ อยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อยจากพิพิธภัณฑ์การบินไอจิ สถานที่แห่งนี้มีทั้งร้านค้า ภัตตาคาร คาเฟ่ และแหล่งบันเทิงต่างๆ เรียงรายอยู่มากมาย โดยถูกสร้างภายในพื้นที่เทอร์มินัลต่างประเทศของท่าอากาศยานเดิมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่