ศาลเจ้าโอวาริ โอคูนิทามะ (โคโนมิยะ) มีชื่อเสียงระดับชาติจากฮาดากะ มัทสึริ
ศาลเจ้านี้ได้รับการบูชาอย่างกว้างขวางแด่เทพเจ้าผู้คุ้มครองชั้นสูงในเขตโอวาริ, เทพเจ้าผู้พิทักษ์การเกษตรและธุรกิจ,
และเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับภัยอันตราย
ศาลเจ้าโอวาริ โอคูนิทามะ ได้รับเลือกให้เป็นศาลเจ้า "โซจา" ซึ่งประดิษฐานเทพเจ้าหลายองค์ในจังหวัดโอวาริ
"โคคูชิ" (ผู้ปกครองจังหวัด) จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนาด้วยตนเองได้
เพราะในสมัยนาราศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ติดกับ "โคคูกะ" (สำนักงานของโคคูชิ)
ดังนั้นศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อศาลเจ้าโคโนมิยะหรือโคโนมิยะ
อาณาเขตของศาลเจ้านี้ประกอบไปด้วย ศาลเจ้ากลาง, ระเบียงเชื่อมต่อ, ห้องโถงสำหรับประกอบพิธีกรรม, ทางเดินฝั่งตะวันออกและตะวันตก,
ศาลเจ้าด้านหน้า (สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ), และประตูซากุระ (สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ)
และยังมีสถานที่ลับบริเวณด้านข้างศาลเจ้ากลางที่เรียกว่า "ไอวาคูระ" ซึ่งมีก้อนหินธรรมชาติขนาดใหญ่เรียงกันเป็นวงกลม
มีสถานที่ดั้งเดิมที่ใช้ประกอบพิธีซึ่งถูกใช้ก่อนที่จะสร้างอาคารของศาลเจ้าในปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นความเก่าแก่ของสถานที่นี้

เปิดแบบหมดจดที่เทศกาลเปลือยกายของศาลเจ้าโคโนมิยะ จินจา

ทุกเดือนกุมภาพันธ์ที่หนาวเย็น ผู้ชมที่แต่งตัวอย่างอบอุ่นหลายพันคนต่างพากันมาเข้าแถวตามถนนที่ไปยังศาลเจ้าโบราณโคโนมิยะ
เพื่อชมผู้ชายเปลือยกายหลายร้อยคนในเทศกาลเปลือยกาย ฮาดากะ มัทสึริ ชายหลายร้อยที่มีเพียงผ้าเตี่ยวที่เป็นผ้าไหมสีขาวบางๆ ปกปิดส่วนลับจะถูกสาดน้ำเย็นในขณะที่กำลังแบกศาลเจ้าแบบเคลื่อนย้ายได้
หรือพยายามที่จะสัมผัส "ชายหนุ่มผู้โชคดี" ขณะที่เขากำลังไปที่ศาลเจ้าด้านใน นี่คือนาโออิ-ชินจิหรือฮาดากะ มัทสึริ (เทศกาลเปลือยกาย)
ที่มีอายุ 1,200 ปี จัดขึ้นที่โอวาริ โอคูนิทามะ จินจา หรือที่รู้จักกันคือศาลเจ้าโคโนมิยะในอินาซาว่า จังหวัดไอจิ
ชายเปลือยกายเท่านั้นที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ (ไม่มีหญิงเปลือยกาย!) และชายที่เข้าร่วมก็ไม่ใช่ตัวอย่างของคนญี่ปุ่นที่เซ็กซี่ที่สุดเสมอด้วย
มีการกล่าวว่างานเทศกาลนี้ได้ดึงดูดฝูงชนจำนวนมากไปยังบริเวณของศาลเจ้าโบราณ
เทศกาลเปลือยกายถูกจัดขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศ แต่งานที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดคืองานเทศกาลเปลือยกายโคโนมิยะของอินาซาว่า
ซึ่งจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปีค.ศ. 767 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นพิธีปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและโรคภัย และขจัดความโชคร้าย รวมทั้งเรียกสิ่งดีๆ เข้ามา
กลุ่มของผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุที่เข้าข่ายที่เป็นโชคไม่ดีสำหรับผู้ชาย
และแต่งกายด้วยผ้าเตี่ยวแบบฟุนโดชิที่ทำจากผ้าฝ้ายสีขาวบางๆ เท่านั้น
โดยจะแบกศาลเจ้าสีสันสวยงามแบบยกได้ที่ติดอยู่กับไม้ยาวประดับด้วยริบบิ้นและกิ่งไผ่ตัดใหม่ๆ ที่ได้รับการตกแต่ง และร้องตะโกนว่า วาโชอิ! วาโชอิ! วาโชอิ!
สิ่งอื่นเพียงสิ่งเดียวที่ชายเหล่านี้สวมใส่คือที่คาดศีรษะทำจากผ้าฝ้ายที่มีสีสัน ซึ่งภายหลังจะถูกฉีกออกเป็นเส้นและส่งต่อ
เชื่อกันว่าหากผู้ใดได้รับสิ่งนี้จะนำโชคลาภมาให้ ขณะที่กลุ่มของชายเปลือยกายผ่านไปตามทางจะถูกสาดน้ำโดยผู้คนที่มีถังใส่น้ำเย็นเยือกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชำระล้างเพื่อความบริสุทธิ์
เทศกาลนี้เป็นเทศกาลบ้าบิ่นและโกลาหลที่มีการดื่มสาเกอย่างอิสระตลอดทั้งวัน อาจมีบางช่วงเวลาที่ดูน่าอายเมื่อผ้าเตี่ยวของคนที่ค่อนข้างเมาเริ่มที่จะหลุดออกมา
ชายหนุ่มอายุน้อยจากในท้องถิ่นจะได้รับเลือกให้เป็นชินโอโตโกะ หรือชายหนุ่มผู้โชคดี ซึ่งเขาจะต้องโกนผมทั้งศีรษะ แม้กระทั่งคิ้วก็ต้องโกนออกด้วย
โดยเขาจะวิ่งไปตามทางท่ามกลางเหล่าชายหนุ่มเปลือยกายนับร้อยที่สวมเพียงผ้าเตี่ยว พวกเขาเหล่านั้นจะพยายามแตะตัวของชายหนุ่มผู้โชคดีเพื่อให้โชคร้ายของตนเองส่งผ่านไปถึงเขา และนำโชคดีกลับคืนมา
หลังจากการต่อสู้ของเหล่าฝูงชน ชินโอโตโกะจะขอพรครั้งสุดท้ายที่ศาลเจ้าก่อนที่จะออกเมืองไปพร้อมกับความโชคร้าย
เช่นเดียวกับงานเทศกาลของญี่ปุ่นอื่นๆ ที่จะมีทั้งแผงลอยขายอาหารและเครื่องดื่มอยู่รอบๆ บริเวณ รวมทั้งมุมถ่ายภาพสวยๆ อีกด้วย!
หากคุณอยากค้นพบตัวเองในไอจิท่ามกลางความหนาวเย็นของเดือนกุมภาพันธ์ ต้องไม่พลาดงานเทศกาลเปลือยกายที่ศาลเจ้าโคโนมิยะในอินาซาว่า