เพิ่มเติม
เราจะมาแนะนำจุดถ่ายรูปในจังหวัดไอจิที่เป็นสถานที่ยอดฮิตใน Instagram ให้ทุกท่านได้ทราบ! มาเต็มอิ่มกับธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในจังหวัดไอจิ
โอเอซิส 21 <นาโกย่า>
[Oasis 21]
@NAGOYAและยานอวกาศน้ำ
สถานที่ยอดนิยมที่ได้รับเลือกเป็นอันดับ 2 จากทั่วประเทศในการจัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการถ่ายรูปในฤดูร้อน ซึ่งให้คะแนนโดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการประกาศในเว็บไซต์ “Tripadvisor” ในปี 2017
จุดเด่นของโอเอซิส 21 ก็คือ “ยานอวกาศน้ำ” ที่มีหลังคากระจกยักษ์ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำอันน่าประทับใจนั่นเอง โดยที่แห่งนี้จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า ลานสนามหญ้าและจุดจอดรถบัสในที่เดียว วิวตัวเมืองที่มองเห็นได้จากบนดาดฟ้าที่สูงจากพื้น 14 เมตร ก็วิเศษมากเลยทีเดียว งานประดับไฟยามค่ำคืนซึ่งผู้คนนิยมมาถ่ายภาพนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและงานอีเว้นท์
“โลกสีเขียว” คือจุดถ่ายรูปที่แนะนำจะอยู่ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของโอเอซิส 21 ในส่วนที่มี @NAGOYA แสดงอยู่เนื่องจากตำแหน่งถ่ายรูปดังกล่าวนี้จะเห็น โอเอซิส 21 เป็นฉากหลังพอดี และในบางมุมสามารถถ่ายรูปโอเอซิส 21 คู่กับชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ (ซึ่งก่อนนี้เรียกว่าหอสัญญาณโทรทัศน์นาโกย่า) ได้ด้วย
ในบริเวณรอบ ๆ ลานกว้างนั้นมีโต๊ะและเก้าอี้จัดเตรียมเอาไว้ให้ มาลองนั่งเพลิน ๆ ในชั้นใต้ดินที่มีแสงสาดส่องกันดูได้เลย
ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์/ฮิซายะโอโดริปาร์ค <นาโกย่า>
[Chubu Electric Power MIRAI TOWER / Hisaya-odori Park]
สระน้ำและชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์
วิวที่มองขึ้นจากเงาน้ำสะท้อนด้านหน้าชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์นั้นเป็นวิวสวยงาม ที่ชวนให้นึกว่าเป็นหอไอเฟลในปารีสเลยทีเดียว ตรงนี้เป็นจุดที่ “ถ่ายรูปขึ้น” ที่สุด งานจัดแสงช่วงกลางคืนก็สุดยอด ยิ่งอยู่ร่วมกับยานอวกาศน้ำของโอเอซิส 21 ก็ยิ่งเปลี่ยนวิวให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ลองมาถ่ายรูปความสวยงามสุดอลังการที่แสดงสีออกมาได้ทั้งหมด 1.67 ล้านเฉดสีนี้กันเลย
ฮิซายะโอโดริปาร์คเป็นห้างสรรพสินค้าที่รวมเข้ากันกับสวนสาธารณะ เป็นจุดที่สวยงามที่มีหญ้าเขียวชอุ่ม บรรยากาศเป็นแบบเปิดกว้างและสดใส ทำให้เห็นผู้คนมากมายมาพักผ่อนและเดินเล่นชิว ๆ กันเต็มเลยล่ะ
พิพิธภัณฑ์วิถีวัฒนธรรมฟุตาบะ <นาโกย่า>
[Cultural Path Futaba Museum]
กระจกสีและบันไดวน
พื้นที่ตั้งแต่ปราสาทนาโกย่าจนถึงสวนโทคุกาวะเราจะเรียกว่า “วิถีวัฒนธรรม” ถนนวัฒนธรรมนั้นเป็นเวทีของการทำให้นาโกย่าทันสมัยขึ้น และเป็นเขตที่มีคฤหาสน์ของนักการเงินตั้งเรียงรายกันมากมาย
พิพิธภัณฑ์ฟุตาบะเป็นคฤหาสน์ที่คาวาคามิ ซาดายัคโคะผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงหญิงคนแรกของญี่ปุ่นและฟุคุซาวะ โมโมสุเกะที่ได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งไฟฟ้า” ได้ใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่ยุคไทโชจนถึงยุคต้นโชวะ โดยคฤหาสน์นี้ได้ถูกย้ายและบูรณะจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ในปี 1920 ช่วงที่มีคฤหาสน์สไตล์โมเดิร์นเต็มไปหมดนั้น ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์จะกลายเป็นห้องรับแขกที่รวมตัวเหล่านักการเงินและนักวัฒนธรรมในสมัยนั้นเอาไว้ ที่นี่เองก็สามารถเห็นของแต่งบ้านอันแสนงดงามในสมัยนั้น เช่น กระจกสีและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง เป็นต้นได้ ดึงดูดผู้คนให้เข้าชมกันมากมาย และในนั้นก็บันไดวนและกระจกสีที่จัดอยู่ในห้องสไตล์ตะวันตกก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
โนริทาเกะโนโมริ <นาโกย่า>
[Noritake Garden]
อิฐแดง
เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่เปิดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบก่อตั้ง 100 ของ “โนริทาเกะ” บริษัทเครื่องปั้นเดินเผา ภายในที่แห่งนี้นอกจะได้ทัศนศึกษาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาโอลด์โนริทาเกะและโรงงานเครื่องปั้นดินแล้ว ยังสามารถมาทดลองวาดลายในเครื่องปั้นดินเผาได้ด้วย
จุดที่นิยมถ่ายรูปจะเป็นอาคารที่ทำด้วยอิฐแดงซึ่งสวยงามและมีเสน่ห์ตั้งตระหง่านอยู่อย่างมีรสนิยมที่โดดเด่นและอ่อนโยน เนื่องจากเป็นสร้างขึ้นในปี 1904 จึงเป็นสิ่งปลูกสร้างเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จากยุคนั้น
ศาลเจ้าวาเกโอเอะ <นาโกย่า>
[Wakeoe Shrine]
ร่มญี่ปุ่นและกระดิ่งลม
เป็นจุดถ่ายรูปไอจีที่นิยมกันมาก ๆ มีหญิงสาวทั่วญี่ปุ่นเข้ามาแวะเวียนกันมากมาย ภายในพื้นที่โดยรอบจะมีการประดับเครื่องตกแต่งที่หลากสีสันเอาไว้ เป็นที่ชื่นชมกันว่าไม่ว่าจะถ่ายรูปตรงจุดไหนก็จะได้ภาพความสวยงามสไตล์ญี่ปุ่นอันแสนวิเศษหมดทุกที่เลย
แถมยังจัดเตรียมของชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ร่มญี่ปุ่น เอาไว้ให้ถ่ายรูปด้วย คุณสามารถมาเพลิดเพลินไปพร้อมกับมาสักการะ
ในช่วงฤดูร้อน ก็จะมีถนนที่ประดับด้วยกระดิ่งลมหลากสีสัน ให้บรรยากาศเป็นเหมือนงานเทศกาลฤดูร้อน และตรงโชสึยะซึ่งเป็นจุดที่ให้ล้างทำความสะอาดมือก่อนสักการะก็จะมีประดับดอกไม้และอื่น ๆ เอาไว้ด้วย สวยจนคุณจะต้องอยากไปถ่ายรูปทุกครั้งอย่างแน่นอน
ศาลเจ้าซันโคอินาริ <เมืองอินุยามะ>
[Sanko Inari Shrine]
เสาโทริอิแดงและแผ่นป้ายขอพรเอมะรูปหัวใจ
ศาลเจ้าซันโคอินาริตั้งอยู่บนตีนเขาชิโรยามะ เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นศาลเจ้าที่บันดาลพรความสัมพันธ์คู่รัก ความสมานฉันท์ระหว่างครอบครัวและอื่น ๆ และแผ่นป้ายขอพรเอมะรูปหัวใจกับเสาโทริอินั้นเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงมาก และยังบันดาลพรให้การค้ารุ่งเรืองได้ด้วยเช่นกัน ว่ากันว่าหากนำเหรียญมาล้างด้วยน้ำบริสุทธิ์ในศาลเจ้า จะทำให้เหรียญนั้นกลับคืนมาเป็นหลายเท่า
สวนสาธารณะโอบุมิโดริ <เมืองโอบุ>
[Obu Midori Park]
ดอกมิโมซ่า
สวนสาธารณะที่มีบ่อน้ำ น้ำพุและอื่น ๆ เป็นแหล่งพักพักผ่อนสำหรับเด็ก ๆ ที่ “สวนพอร์ตฟิลลิป” ในสวนสาธารณะแห่งนี้ จะมีต้นมิโมซ่าที่ได้รับมอบจากเมืองมิโมซ่ามาปลูกเอาไว้ โดยเวลาในการชมต้นไม้จะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน สีเหลืองอร่ามของดอกมิโมซ่านั้นน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก มีคนมากมายที่มาถ่ายดอกของต้นนี้เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก
สวนสาธารณะโอได โคโนฮานะคัน <เมืองฮิกาชิอุระ>
[Konohanakan Hall at Odai Park]
กระจกสี
ที่ “โคโนฮานะคัน” ซึ่งอยู่ตรงสำนักจัดการสวนสาธารณะ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 10 เดือนธันวาคมถึงวันที่ 31 เดือนมกราคมในทุก ๆ ปีจะมีงานอีเว้นท์ห่อกระจกให้คล้ายกับกระจกสี ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก ช่วงกลางวันคุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าหลงใหลที่มีแสงส่องลอดผ่านต้นไม้เข้ามาในอาคารได้ กลางคืนก็จะมีการจัดแสดงไฟทำให้เพลิดเพลินกับวิวสีสันสดใสได้ด้วยเช่นกัน (วันที่ 27 เดือนธันวาคม - วันที่ 4 เดือนมกราคมจะไม่มีการจัดแสดงไฟ)
สวนสาธารณะมิตสึมาตะ <เมืองยาโตมิ>
[Mitsumata Pond Park]
ดอกเนโมฟีลาและดอกชิบะซากุระ
ในสวนสาธารณะที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่มีนกป่ามาแวะเวียน เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกชิบะซากุระสีชมพูและดอกเนโมฟีลาบานมากกว่า 1 แสนดอกจนเป็นพรมดอกไม้เลย ช่วงชมดอกซากุระจะเป็นกลางเดือน ~ ปลายเดือนเมษายนของทุกปี แม้จะสามารถชมดอกชิบะซากุระได้จากหลากหลายที่ แต่ขอแนะนำที่โคยามะ ดอกเนโมฟีลาและชิบะซากุระที่รายล้อมเรา 360 องศา ทำให้กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่สวยงามไปโดยปริยาย ภายในสวนจะมีถนนเดินเล่นซึ่งสามารถเดินเล่นริมน้ำได้ และมีร้านค้าตามทางด้วย ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้ได้อย่างสบายใจ
เนินเขาสึโดอิ <เมืองโตโยต้า>
[Tsudoi-no-Oka]
ดอกสึสึจิ
“ศูนย์วิจัยเนินเขาสึโดอิ” เป็นสถานที่ที่ใช้ในงานประชุม อบรม ค่ายฝึกอบรมและอื่น ๆ เวลาที่คนเข้ามากันพลุกพล่านจะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้จะตรงกับช่วงชมดอกคิริชิมะสึสึจิที่อยู่ในศูนย์วิจัยพอดี ภายในนั้นที่จุดจอดรถจะมีกำแพงดอกไม้งามความยาว 5 เมตรที่มีดอกสึสึจิบานสะพรั่งกว่า 1 หมื่นดอกเป็นภาพที่อลังการมาก คุณจะได้เห็นผู้คนต่างมาถ่ายรูปโดยมีกำแพงดอกไม้เป็นฉากหลัง และก็ยังมี “ถนนสี่ฤดู” ถนนเดินเล่นความยาว 1.5 ก.ม. ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการชมป่าไม้ได้ด้วย
ถนนนิชิอุระเลียบชายฝั่งทะเล <เมืองกามาโกริ>
[Nishiura Seaside Road]
ถนนต้นปาล์ม “กามาฟอร์เนีย”
“กามาฟอร์เนีย” ที่คุณสามารถถ่ายรูปสุดเท่กับรถคันโปรดของคุณได้
ที่ “ถนนริมทะเลนิชิอุระ” ถนนเลียบชายฝั่งที่แล่นอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรนิชิอุระ จะมีต้นปาล์มปลูกข้างถนน ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในต่างประเทศ โดยชื่อของที่แห่งนี้จะเป็นคำประดิษฐ์จากคำว่า “กามาโกริ” และ “แคลิฟอร์เนีย” เลยกลายเป็น “กามาฟอร์เนีย” และที่นี่ก็อยู่ใกล้ซันกาเนซันสกายไลน์ด้วย จะมาเที่ยวควบคู่กับไปภูเขาซันกาเนะก็ไม่เลวเลย
ต้นแปะก๊วยยักษ์ยามาโตะ <เมืองโทโยคาวะ>
[Yamato Giant Ginkgo Tree]
ต้นแปะก๊วย
ต้นแปะก๊วยยักษ์ยามาโตะที่อยู่หลังสถานรับเลี้ยงเด็กยามาโตะในเมืองโทโยคาวะจังหวัดไอจินั้น เป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีความสูงประมาณ 25 เมตร และมีกิ่งที่แผ่นออกไปไกลกว่า 10 เมตร แม้ต้นแปะก๊วยยักษ์ที่กลายเป็นสีเหลืองในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณต้นเดือนธันวาคม) จะสุดยอด แต่ช่วงที่เป็นใบเขียวก็ดูเยี่ยมไม่แพ้กัน เป็นต้นไม้ที่ถูกโพสต์ลงบนไอจีเยอะมาก
ทาเคชิมะแฟนตาซีคัน <เมืองกามาโกริ>
[Takeshima Fantasy Museum]
อุโมงค์เปลือกหอย
เป็นสวนสนุกที่มีธีมเป็นแร่ธาตุ ฟอสซิล เปลือกหอยโดยสร้างจากหอย 55 ล้านชิ้นที่รวบรวมจาก 110 ที่ทั่วโลก รูปทรงเปลือกหอยที่ติดแสง LED รุ่นใหม่เข้าไปทำให้ได้ภาพที่มีเสน่ห์มาก เป็นสถานที่ที่ถูกโพสต์ลงไอจีเยอะมาก โลกแฟนตาซีที่ล้อมรอบไปด้วยเปลือกหอยเหมือนกับโลกในนิทานจนคุณจะต้องตกใจ!
พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วมิคาวาโกเงอิ <เมืองนิชิโอะ>
[Mikawakougei Glass Art Museum]
กระจกสีและคาไลโดสโคปยักษ์
ในปี 2018 ช่วงที่เปิดให้ถ่ายรูป ก็ได้มีการพูดกันปากต่อปากผ่านโซเชียล และทำให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในที่สุด!
เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่สามารถสัมผัสประสบการณ์แวววาวในสเกลที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ โดยมีทั้งคาไลโดสโคปยักษ์ที่เคยลงบันทึกกินเนสบุ๊คในปี 2000, ห้องกระจกสลักที่ติดเต็มทุกด้านและอื่น ๆ ลองเข้ามาดูในห้องที่มีคาไลโดสโคปยักษ์กันได้ จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์มหัศจรรย์ที่เหมือนตนเองได้หลอมละลายเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับงานศิลปะเลย ในพื้นที่อันแสนมีเสน่ห์และหลุดโลกแห่งนี้คุณจะลืมเวลาและหลงเสน่ห์กับมันอย่างแน่นอน
ห้องเรียนทดลองที่อยู่ชั้นหนึ่งสามารถมาทดลองทำงานเครื่องแก้วได้จากรายการเมนูที่หลากหลาย เช่น กระจกสีและการพ่นทราย เป็นต้น
สึบุเทอุระ <มินามิชิตะ>
[Tsubuteura Shore]
เสาโทริอิ
“สึบุเทอุระ” ที่อยู่ตรงชายฝั่งของเมืองมินามิชิตะเป็นจุดขอพรที่นิยมมาก
มีตำนานเล่าว่าเหล่าเทพเจ้าในศาลเจ้าอิเสะ (จังหวัดมิเอะ) ที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้งกับต้นกำเนิดของญี่ปุ่นได้มาขว้างหินกันไปหา ทำให้หินที่ขว้างชนกันและตกลงในอ่าว ในความเป็นจริงแล้ว ที่ชายฝั่งแห่งนี้หินใหญ่ได้ถูกซัดจากก้นทะเลมาอยู่ตรงนี้เนื่องจากพลังงานของคลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล และการปะทุของภูเขาไฟในชั้นดินเมื่อ 15 ล้านปีก่อน เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่ในธรรมชาติ พลังอันยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าจึงบันดาลให้เกิดดังตำนานที่เล่าขานขึ้นมา
เสาโทริอิที่มีผู้คนมาแวะเวียนและถ่ายรูป ปัจจุบันเป็นเสารุ่นที่ 3 แล้ว เสาโทริอิจะหันหน้าไปทางศาลเจ้าอิเสะ ที่ศาลเจ้าอิเสะในทุก ๆ 20 ปีจะมีการเปลี่ยนบูรณะศาลเจ้าใหม่ซึ่งจะนำวัสดุเก่านั้นมาสร้างเป็นเสาโทริอิ ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่มงคลมาก
เกาะซาคุชิมะ <เมืองนิชิโนะ>
[Sakushima Island]
เกาะแห่งศิลปะ
ซาคุชิมะ “เกาะแห่งศิลปะ” มีนักท่องเที่ยงต่างชาติมาเยี่ยมชมมากมายเพื่อถ่ายรูปที่สวยงาม
หนึ่งในงานที่เป็นสัญลักษณ์ของซาคุชิมะได้แก่ “บ้านโอฮิรูเนะ” หากคุณหลับตาขณะที่ฟังเสียงคลื่นและสัมผัสสายลมทะเล คุณจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ในฝั่งตรงข้าม มี “บ้านตะวันออก” ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นบ้านที่ทาสีขาว มีงานศิลปะอื่นๆ มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะแห่งนี้ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป ขณะที่เดินเล่นสำรวจไปรอบๆ
