“เหมียวน้อยคอยรัก A Whisker Away” ภาพยนตร์อนิเมชันดังที่กำลังเผยแพร่ใน Netflix เป็นเรื่องราวที่มีฉากอยู่ใน “เมืองโทโคนาเมะจังหวัดไอจิ”
เมืองโทโคนาเมะ มีชื่อเสียงด้านแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1000 ปี แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาทั้ง 6 แห่งรวมเมืองโทโคนาเมะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกแห่งชาติ” ที่คัดเลือกโดยทบวงวัฒนธรรม เมื่อประมาณ 100 ปีก่อนช่วงที่อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผารุ่งเรือง มีการสร้างหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์บนเนินรวมกันอย่างหนาแน่นข้างๆโรงงานหรือโรงผลิตเครื่องปั้นดินเผา และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่า “ถนนเครื่องปั้นดินเผา” ที่ถ่ายทอดบรรยากาศให้ชวนระลึกถึงความหลังสมัยนั้นมาจนถึงปัจจุบัน
ย่านต่าง ๆในเมืองโทโคนาเมะที่เขียนในผลงานภาพยนตร์อนิเมชันนั้น เขียนตามความจริงแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อคุณเดินเที่ยวชมเมืองโทโคนาเมะ บางทีคุณอาจจะรู้สึกเหมือนหลงทางเข้าไปสู่โลกแห่งอนิเมชันก็ได้
โลกของ “เหมียวน้อยคอยรัก A Whisker Away” ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาทีจากสถานี “สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์”
โลกอันอบอุ่นจากสีน้ำตาลแดงที่บรรยากาศแตกต่างจากทิวทัศน์ของญี่ปุ่นตามที่คุณจินตนาการเล็กน้อย อาจร่ายเวทย์มนต์วิเศษใส่จนคุณหลงใหลได้

STORY

“มิโยะ” เด็กสาววัย 14 ปี ที่ร่าเริงสดใสอยู่ตลอดเวลา
เธอมักจะทำอะไรโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างเสมอ เพื่อนร่วมชั้นจึงตั้งชื่อเล่นให้เธอว่า “มุเกะ” ซึ่งแปลว่าคนแปลก ๆ
มุเกะหลงรัก “ฮิโนเดะ” เด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชั้น
เธอจู่โจมเข้าหาฮิโนเดะอย่างกล้าหาญเป็นประจำทุกวัน แต่เขาไม่เคยสนใจเธอเลย
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะถูกเขาปฏิเสธ หรือถูกคนรอบข้างเยาะเย้ยเพียงใด เธอก็ยังคงจู่โจมเข้าหาเขาต่อไปโดยไม่ย่อท้อ
เหตุผลที่ทำให้เธอชอบฮิโนเดะ ก็คือเพราะเธอรู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของฮิโนเดะนั่นเอง
แต่จะเห็นใบหน้านั้นเฉพาะตอนที่มุเกะอยู่ในร่างแมวเท่านั้น เธอมีหน้ากากพิเศษที่ทำให้เธอกลายเป็นแมว และไปหาฮิโนเดะได้ในร่างแมว
ฮิโนเดะตั้งชื่อแมว (มุเกะ) ว่า “ทาโร่” ซึ่งเขารักเจ้าแมวนี้มาก แน่นอนว่าเขาก็ไม่รู้ว่าความจริงว่าเจ้าแมวนี้คือมุเกะ
หลังจากพ่อแม่หย่าร้างกัน เธออาศัยอยู่ร่วมกับคู่หมั้นของพ่อที่พ่อพามาอยู่ด้วยความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน และพบเจอแม่บ้างเป็นครั้งคราว…
ช่วงเวลาเป็นแมวที่สามารถสื่อสารทางใจกับฮิโนเดะได้คือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งใด สำหรับมุเกะที่เป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตแบบกังวลกับสิ่งรอบข้างและเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง
เธอขออยู่เคียงข้างฮิโนเดะแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม ยิ่งวิงวอนขอให้ได้อยู่สื่อทางใจกับฮิโนเดะมากเท่าไร ช่วงเวลากลายร่างเป็นแมวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เส้นที่คั่นระหว่างความเป็นมนุษย์และแมวกลับเริ่มเลือนลางลงทุกที ๆ
ตอนนั้นเจ้าของร้านแมวที่ให้หน้ากากกลายร่างเป็นแมวแก่มุเกะ มาขอร้องเธอว่าทิ้งใบหน้ามนุษย์นี้เสียแล้วกลายเป็นแมวตลอดไปจะได้ไหม…

* เพิ่มเติมคือ ญี่ปุ่นมีคำว่า “เนะโกะ โอะ คาบุรุ” หมายถึง “แสดงออกว่าเรียบร้อยโดยเก็บซ่อนนิสัยที่แท้จริง”

“ถนนเครื่องปั้นดินเผา” จะทำให้คุณหลงใหลบรรยากาศเมืองประวัติศาสตร์ที่คุณหาชมไม่ได้จากที่อื่น
ขอให้คุณเพลิดเพลินกับการเดินเที่ยวตรอกที่เหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตแบบเจ้าแมวใน “เหมียวน้อยคอยรัก A Whisker Away”

สถานีเมเทตสึโทโคนาเมะ
[Meitetsu Tokoname Station]

สถานีเมเทตสึโทโคนาเมะจุดเริ่มต้นของทริปตามรอยสถานที่ในฉากภาพยนตร์อนิเมชัน ฉากที่ฮิโนเดะมาตามหามุเกะที่ปรากฏในผลงานภาพยนตร์อนิเมชัน เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วในสถานีแล้วเดินตรงไปจะพบศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวเมืองโทโคนาเมะ จากตรงนี้ขอให้เดินไปทางหอเซรามิกเมืองโทโคนาเมะซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นทริป “ถนนเครื่องปั้นดินเผา”

สะพานอิจิกิ
[Ichiki Bridge]

สถานที่ที่มุเกะในร่างแมวผ่านตอนกลับจากบ้านฮิโนเดะ คุณสามารถทอดสายตามองวิว “ถนนเครื่องปั้นดินเผา” จากสะพานแห่งนี้ซึ่งถูกสร้างขึ้นประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา โค้งถนนกับส่วนโค้งของสะพานทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงาม บริเวณนี้มีการจราจรหนาแน่น กรุณาระมัดระวังให้ดีในขณะถ่ายรูปด้วย

ทางเดินไปโรงเรียนของมุเกะที่อยู่ทางตะวันออกของสะพานอิจิกิ (คอร์ส B: 4km ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง) มุเกะกับโยริโกะเพื่อนรักของมุเกะบอกลาแล้วแยกกันไปทางซ้ายและทางขวาตรงนี้

เนินเขาท่อดินเผา (โดคังซากะ)
[Dokan Zaka Earthenware Slope]

สถานที่ที่มุเกะในร่างแมวพบเจ้าของร้านแมวโดยบังเอิญในขณะกลับจากบ้านของฮิโนเดะ ซึ่งเจ้าของร้านแมวช่างขี้สงสัย มากดดันมุเกะว่าให้ใช้ชีวิตเป็นแมวเสียจะได้มีความสุขกว่าตอนเป็นมนุษย์
จุดน่าประทับใจเป็นพิเศษตรงสถานที่แห่งนี้คือทางลาดแคบยาวต่อเนื่องกันและผนังสูง เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้วขอให้เดินอย่างระมัดระวังด้วย ผิวถนนที่เป็นลวดลายวงกลมทำจากเศษซากวัสดุจากการทำเครื่องปั้นดินเผา เป็นการดัดแปลงเพื่อให้ง่ายต่อการเดินโดยไม่ลื่นล้ม ส่วนผนังด้านซ้ายและด้านขวานั้น เป็นการนำท่อดินเผาและภาชนะใส่เหล้าที่ไม่ใช้แล้วมาวางซ้อนกันจนแน่นขนัด เพื่อสร้างบรรยากาศที่แปลกตาแบบที่หาชมจากที่อื่นไม่ได้

ลานเตาเผาโนโบริกามะ (อนุสรณ์สถาน และผนังเซรามิก)
[Noborigama Climbing Kiln (Plaza Gallery and Studio)]

อนุสรณ์สถานเสาสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่ตรงกลางลานเตาเผาโนโบริกามะ เป็นฉากสำคัญที่ปรากฏในผลงานภาพยนตร์อนิเมชัน อาทิ ฉากในวันเทศกาลฝนที่มุเกะพบกับฮิโนเดะโดยบังเอิญ และฉากตอนกระโดดออกจากบ้านแล้วร้องไห้ เป็นต้น

ฉากที่มุเกะในร่างแมวหนี ตอนที่โดนเจ้าของร้านแมวกดดันขอใบหน้ามนุษย์จากมุเกะ การออกแบบกระเบื้องที่มีสีสันสดใสเป็นฉากที่น่าประทับใจเสมือนสื่อให้เห็นเป็นทางเข้าไปสู่โลกอัศจรรย์
ในผลงานภาพยนตร์อนิเมชันจะมองเห็นเป็นผนังเรียบต่อเนื่องกัน แต่ความเป็นจริงแล้วกระเบื้องแต่ละแผ่นทำเป็นรูปพีรามิดสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ทำให้มองเห็นลวดลายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับทิศทางการมอง แล้วคุณมองเห็นเป็นลวดลายอย่างไรบ้าง

เตาเผาแบบขั้นบันได (โนโบริกามะ)
[Noborigama Climbing Kiln]

ปล่องไฟโบราณที่สูงเรียงรายที่ปรากฏในฉากตอนฮิโนเดะตามหามุเกะที่หายไป
เตาเผาแบบขั้นบันได ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 135 ปีก่อน ถือเป็นเตาเผาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังเหลือเพียงแห่งเดียวที่นี่ ขอให้ลองมองดูปล่องไฟที่ทำจากอิฐทั้ง 10 แท่งดีๆ สังเกตเห็นหรือไม่ว่าจะสูงเฉพาะตรงส่วนปลายทั้งสองข้างเท่านั้น นี่คือการดัดแปลงเพื่อใช้ในการถ่ายเทอากาศ และทำให้เผาได้สม่ำเสมอจนถึงซอกมุมของเตาเผา
เมื่อปืนขึ้นตามทางเดินเล็กๆรอบเตาเผา คุณจะมองเห็นภายในของเตาเผาด้วย

[ตอนพิเศษ] อยู่ห่างจาก “ถนนเครื่องปั้นดินเผา” เล็กน้อย…

สวนสาธารณะโฮโจ (โฮโจโคเอ็น)
[Hojo Park]

ฉากการสนทนาระหว่างมุเกะในร่างแมว กับ “คินาโกะ” ในร่างมุเกะ สถานที่นี้คือ “สวนสาธารณะโฮโจ” ที่อยู่ในโทโคนาเมะ นิวทาวน์ (อะซะกะได) ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 1.2 กิโลเมตรจากทิศตะวันออกของสถานีโทโคนาเมะ มีบึงและสนามหญ้า เครื่องเล่นมากมาย และเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก ๆที่อาศัยบริเวณรอบ ๆ
หมู่บ้านที่มุเกะอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับสวนสาธารณะแห่งนี้ สังเกตเห็นไหมว่าบรรยากาศจะแตกต่างกับ “ถนนเครื่องปั้นดินเผา” ที่คุณชมมาก่อนหน้านี้ เพราะบ้านของมุเกะเป็นบ้านตามแบบมาตรฐานของบ้านสมัยใหม่ในปัจจุบันนั่นเอง แล้วแตกต่างกับบ้านที่คุณอาศัยหรือไม่?

โลกของ “เหมียวน้อยคอยรัก A Whisker Away” ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาทีจากสถานี “สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์”
ไม่แน่คุณอาจจะเจอมุเกะกับฮิโนเดะก็ได้

© MUGE Production Committee